การพบ "คูนขาว" พราวสีและกลิ่น ได้ยลยินในจิตรลดา
โดย ทินกร คมกฤช

         
ในพ.ศ. 2547 ได้นำคูนขาวมาปลูกที่โรงเรียนจิตรลดา

          การปลูกไม้ในตระกูลคูนของไทย รวมทั้งคูนลูกผสม สามารถปลูกได้เหมือนกับไม้ยืนต้นทั่วๆ ไป แต่มีข้อควรระวังพิเศษอยู่บางประการ คือ ไม้ในตระกูลนี้จะไม่ชอบที่ลุ่มชื้นแฉะ และต้องขึ้นในที่มีแสงแดดเต็มที่ ที่สำคัญที่สุดคือ ในช่วงฤดูแล้งจะต้องมีสภาพแล้งจนทิ้งใบไปทั้งต้นเหมือนกับธรรมชาติ ถ้าได้รับน้ำสมบูรณ์หรือปลูกในบริเวณบ้านรวมกับต้นไม้อื่นๆ ซึ่งได้รับการบำรุงรดน้ำอยู่ทุกวัน จะทำให้ต้นและใบเจริญเกือบตลอดปี ช่อดอกจะไม่เกิดขึ้นหรือมีช่อดอกแต่เพียงเล็กน้อย และมักถูกใบเขียวบดบัง ทำให้ไม่เห็นดอกเด่นชัด สดสวยเหมือนกับต้นที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ
          การขยายพันธุ์ไม้ในตระกูลนี้มักจะใช้ต้นจากการเพาะเมล็ดปลูก เนื่องจากเป็นไม้โตเร็ว ถ้าปลูกบำรุงพอสมควรจะเจริญจากเมล็ดจนออกดอกได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 58 ปี ต้นที่มีสีพิเศษ เช่น สีเข้ม หรือจางกว่าปกติ หากต้องการให้คงลักษณะนี้ไว้ในต้นปลูกใหม่ ไม่ควรใช้เมล็ดปลูก เพราะอาจไม่สามารถคงลักษณะที่ต้องการไว้ได้ ต้องขยายพันธุ์โดยวิธี
Vegetative Propagation คือ ต้นที่ได้จากเนื้อไม้เดิมของต้นแม่ จะเป็นการตอนกิ่ง ทาบกิ่ง เสียบยอด หรือแม้กระทั่งวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (Tissue cultrue) 
         
ส่วนคูนลูกผสม ไม่ว่าจะเป็น Rainbow Shower หรือคูนขาว ตามหลักของพันธุกรรมศาสตร์ การใช้เมล็ดจะทำให้กลายพันธุ์ ไม่สามารถคงลักษณะเดิมไว้ได้ Rainbow Shower นั้นไม่สามารถมีเมล็ดแล้วเนื่องจากเป็นหมัน ส่วนคูนขาวนั้นมีเมล็ดและเพาะขึ้นได้ มีผู้นำเมล็ด จากฮาวายหรือแม้ต้นท้องถิ่นมาเพาะเสมอ แต่ไม่สามารถคงลักษณะเป็นคูนขาวไว้ได้ ต้องขยายพันธุ์โดยวิธี Vegetative เท่านั้น
          ในประเทศไทย มีผู้พบลูกผสมต้นนี้ขึ้นอยู่โดดเดี่ยวหนึ่งต้นในจังหวัดลพบุรี การพิจารณาดูลักษณะต่างๆ จะเป็นที่แน่ชัดว่าเป็นลูกผสมระหว่าง ราชพฤกษ์และกัลปพฤกษ์ เช่นเดียวกับคูนพันทางของฮาวาย แต่เป็นลูกผสมที่บังเอิญเกิดขึ้นจากการผสมโดยธรรมชาติและบังเอิญงอกงามจนเป็นต้นเป็นดอกได้ คูนต้นนี้สามารถติดฝักและเมล็ดได้เช่นเดียวกัน

หน้า  1    2   3