ดินสอและผงถ่าน


          การใช้ดินสอ (graphite pencil) และผงถ่าน (carbon dust) ให้แสง-เงาสำหรับภาพ (rendering) ต่างจากการร่างภาพด้วยดินสอ เช่นเดียวกับการ rendering ด้วยหมึก ปากกา และสีน้ำ การ rendering ด้วยดินสอต้องร่างภาพก่อนเสมอ ควรลอกภาพร่างมาลงบนกระดาษที่จะใช้จริง เพื่อให้สามารถลงดินสอได้โดยกระดาษมีรอยลบน้อยที่สุด พื้นผิวกระดาษเสียหายน้อยที่สุด และสะอาด มิฉะนั้นจะใช้ดินสอให้แสง-เงาได้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร วัตถุที่เหมาะจะ rendering ด้วยดินสอ คือวัตถุที่พื้นผิวเรียบเนียน เป็นคลื่น หรือสะท้อนแสงมาก ไม่มีเส้น ขน หรือหนาม หรือมีก็ไม่มากนัก เทคนิคการใช้ดินสอ และผงถ่านเหมาะจะสร้างความนุ่มนวล กลมกลืนมากกว่าความชัดเจน แหลมคม ตัวอย่างวัตถุที่เหมาะจะใช้เทคนิคดินสอ เช่น พริกยักษ์ มะเขือเทศ กะโหลก หอย ด้วง เป็นต้น
          ดินสอที่นิยมใช้ในเทคนิคนี้ ได้แก่ ดินสอ 2H,B,2B และ 4B ไส้ดินสอ 2H และ B นั้น อาจใช้กับปากกาดินสอได้ แต่ไส้ดินสอ 2B และ 4 B อ่อนเกินไป ไม่ทำเป็นไส้ดินสอสำหรับปากกาดินสด ต้องใช้แบบเป็นแท่งดินสอเท่านั้น สำหรับกระดาษ ควรเลือกให้เหมาะกับลักษณะและขนาดภาพ บางภาพที่ต้องการวาดความขรุขระอาจใช้กระดาษที่เป็นปุ่มปมไม่เรียบคล้ายกระดาษหนังไก่ แต่ไม่ควรใช้กับภาพขนาดเล็กเพราะจะลงแสง-เงาได้ยาก ภาพขนาดเล็กต้องใช้กระดาษที่ค่อนข้างเรียบและใช้ดินสอปลายแหลม นอกจากนี้ อาจมีสีขาวพวก titanium white acrylic, white water proof ink หรือ white gouache เพื่อลบรอยดินสด หรือเติมไฮไลท์ อาจใช้กระดาษทรายละเอียดเพื่อฝนดินสอออกมาเป็นผง หรือใช้ผงถ่านบรรจุหลอดและต้องมีพู่กันขนาดต่างๆ เพื่อแตะผงถ่านลงในภาพ นอกจากนี้ควรมียางลบขนาดเล็ก ปากกายางลบ อาจใช้จุกไม้คอร์ก ยางแท่ง สำลี สำลีพันปลายไม้ หรือกระดาษพันเป็นแท่งดินสอ (stump) ชาร์มัว หรือผ้าสักหลาดเพื่อเกลี่ย เลื่อนรอยดินสอ ที่ขาดไม่ได้ คือควรมีกบเหลาดินสออยู่ใกล้มือ แต่มีด หรือคัตเตอร์จะเหลาดินสอได้แหลมคมกว่า ควรเหลาให้ไส้ดินสอโผล่ออกมาจากแท่งดินสอมากๆ ประมาณ 1-2 เซนเติเมตร เพื่อให้ลากเส้นได้คล่องตัว สำหรับปากกาดินสดก็มีข้อดีตรงที่ไม่ต้องเหลาดินสอบ่อยๆ
          ขั้นตอนการลงแสง-เงาด้วยดินสอและผงถ่าน

  1. ร่างภายโดยใช้ดินสอ B หรือ HB ซึ่งไม่อ่อนเกินไป เพื่อให้ภาพร่างคมชัด

  2. ลอกภาพลงบนกระดาษที่จะใช้จริง แล้วเน้นเส้นด้วยดินสอ B แหลมๆ พยายามอย่าให้กระดาษจริงมีรอยลบ ขูดขีด สกปรก การป้องกันกระดาษรอบภาพอาจใช้กระดาษปิดคลุมแล้วตัดช่องสำหรับวาด

  3. ลงเส้นขอบด้วย 2B, B และ 2H ถัดเข้ามาในเส้นขอบตามลำดับได้ โดยใช้ด้านข้างดินสด เพื่อทำให้เป็นแถบกว้าง 3-4 มิลลิเมตรด้านในเส้นขอบ

  4. ใช้ stump ไม้คอร์ก ยางนุ่มๆ เหลาเป็นดินสอ หรือสำลีพันปลายไม้ ค่อยๆลากเอาฝุ่นดินสอออกจากเส้นขอบ ลากเป็นเส้นขนาดให้แถบกว้างขึ้นตามความเหมาะสมกับลักษณะแสง-เงาบนวัตถุ อย่าลากวนเป็นวงกลมเพราะจะทำให้กระดาษเป็นขุย

  5. บริเวณที่เป็นฮาร์ฟโทน ใช้ stump หรือ สำลีพันปลายไม้แตะผงดินสอ หรือผงถ่านลากเส้นขนานออกมาจากเส้นขอบ เกลี่ยให้กลมกลืน บริเวณไฮไลท์ต้องเว้นขาวไว้ ควรเว้นให้กว้างกว่าไฮไลท์จริงเล็กน้อย เพื่อให้มีบริเวณที่จะเกลี่ยสีดำเข้ามาให้เนียนจาง เมื่อถึงขั้นตอนนี้ ภาพจะมีแสง-เงา ถูกต้องแล้ว แต่ยังไม่เข้มพอที่ใช้จริง

  6. ค่อยๆเติมสีดำเข้มในบริเวณที่เป็นเงา โดยใช้ผงดินสดกับ stump หรือผงถ่านกับพู่กัน ถ้าบริเวณที่ต้องการลงสีเข้มกว้างมากอาใจใช้หนังชามัวร์หุ้มปลายนิ้วจุ่มผงแทนก็ได้ แต่ถ้าบริเวณที่ต้องการมีขนาดเล็ก ควรใช้ดินสดไส้แข็งๆ เช่น 4H ถึง 7H เติมเงา

  7. บริเวณที่เข้มที่สุด เช่น ใกล้เส้นขอบใบ ให้ใช้ด้านข้างของปลายดินสอ 2B หรือ 4B ลากเส้นยาวๆ ขนานเส้นขอบเข้ามาในภาพ แล้วใช้ stump เกลี่ยอีกที

  8. ลักษณะพื้นผิวของวัตถุที่ไม่เรียบ ให้เก็บไว้ทำสุดท้ายหลังจากที่รูปทรงและแสง-เงาถูกต้องแล้ว การเติมพื้นผิวไม่ต้องทำอย่างละเอียดเกินไป เพียงเติมให้รู้พอสังเขปว่าผิวเป็นอย่างไร
           บริเวณไฮไลท์เล็กๆ เช่น ตามปุ่มนูน สันเล็กๆ ให้ใช้ปากกายางลบเหลาแหลมๆ ค่อยๆแตะเอารอยดินสอออก หรือเติมด้วยสีขาวแล้วเกลี่ยขอบด้วยผงดินสด ส่วนบริเวณเงาเล็กๆให้เติมด้วยดินสอ หากมีขนหรือหนาม อาจเติมด้วยดินสอปลายแหลม หรือหมึกก็ได้ ใช้จุด วงกลม หรือรูปเสี้ยวแสดงรู เงารูปเสี้ยวเล็กๆ แสดงรอยบุ๋ม เงาและเส้นเป็นมุมแหลมแสดงหนาม

  9. เมื่อภาพเสร็จแล้ว เอากระดาษคลุมออก ทำความสะอาดรอบๆ รูป
           การใช้ดินสอสี มีเทคนิคแตกต่างจากดินสอกราไฟต์ คือจะไม่ใช้การเกลี่ยผงดินสอสี ไม่ใช้ stump การลอกภาพ ต้องใช้ดินสอสีลอก (ฝนดินสอสีอ่อนที่ด้านหลังกระดาษลอกลายแทนที่จะฝนด้วยดินสอตามปกติ) ถ้าวัตถุสีอ่อนต้องลงพื้นด้วยดินสอสีขาวก่อน การใช้ดินสอสีส่วนใหญ่จะใช้ปลายดินสอมากว่าด้านข้างปลายดินสอ ลากเส้นเล็กๆ ติดๆ กันเพื่อแสดงแสง-เงา อาจใช้เส้นตัด เริ่มจากฮาล์ฟโทนก่อน แล้วไล่มาที่เงาที่เข้มกว่า ใช้หลายๆสีผสมกันก็ได้ แต่ควรลงสีเข้มก่อนลงสีอ่อนทับ แต่ต้องระวังอย่าลงสีหนาเกินไป เพราะจะทำให้กลายเป็นเงาวาว ลงสีต่อไปอีกไม่ได้ นอกจากนี้อาจใช้สีขาวแบบ dry brush เพิ่มไฮไลท์ได้ด้วย