ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและเกษตร
On Plant Genetic Resources for Food
and Agriculture |
ส่วนที่ ๔ ระบบพหุภาคีว่าด้วยการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์
มาตรา ๑๐ ระบบพหุภาคีว่าด้วยการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์๑๐.๑. ในความสัมพันธ์กับรัฐอื่นๆ ภาคีสมาชิกรับรองว่าสิทธิอธิปไตยของรัฐเหนือ ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ของตน รวมถึงว่าอำนาจในการกำหนดการเข้าถึงทรัพยากรเหล่านั้นขึ้นอยู่กับรัฐบาลของประเทศต่างๆ และอยู่ภายใต้กฎหมายภายในประเทศ
๑๐.๒. ในการใช้สิทธิอธิปไตย ภาคีสมาชิกตกลงที่จะสร้างระบบพหุภาคีซึ่งมีประสิทธิภาพประสิทธิผล และโปร่งใส ทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร และในการแบ่งปันในทางที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกัน ซึ่งผลประโยชน์ที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรเหล่านี้ บนพื้นฐานของการเสริมความเข้มแข็งแบบร่วมมือกันและเป็นมิตร
มาตรา ๑๑ ขอบเขตของระบบพหุภาคี
๑๑.๑. ในการสร้างความคืบหน้าของวัตถุประสงค์ในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนซึ่งทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร และการแบ่งปันอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกันซึ่งผลประโยชน์ที่เกิดจากใช้ทรัพยากรเหล่านี้ ดังที่ปรากฎอยู่ในมาตรา ๑ ระบบพหุภาคีจะครอบคลุมถึงทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ที่ขึ้นบัญชีไว้ในภาคผนวก ๑ ซึ่งสร้างขึ้นโดยสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ว่าด้วยความมั่นคงทางอาหารและการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน (interdependence)
๑๑.๒. ระบบพหุภาคี ที่ระบุไว้ในมาตรา ๑๑.๑ จะรวมถึงทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตรที่ขึ้นบัญชีไว้ในภาคผนวก ๑ ซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการและการควบคุมของภาคีสมาชิก และในความครอบครองของสาธารณะ โดยมุมมองเพื่อบรรลุถึงความเป็นไปได้สูงสุดของระบบพหุภาคี ภาคีสมาชิกเชิญชวนให้ผู้มี ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ที่ขึ้นบัญชีไว้ในภาคผนวก ๑ ไว้ในครอบครองรวม ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร เหล่านี้ไว้ในระบบพหุภาคี
๑๑.๓. ภาคีสมาชิกตกลงที่จะใช้มาตรการที่เหมาะสมในการสนับสนุนบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลภายในเขตอำนาจของตนที่มี ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ที่ขึ้นบัญชีไว้ในภาคผนวก ๑ ไว้ในครอบครองให้รวม ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร นั้นไว้ในระบบพหุภาคีด้วย
๑๑.๔. ภายในเวลา ๒ ปีนับแต่สนธิสัญญานี้มีผลบังคับใช้ สภาปกครอง (Governing Body) จะประเมินความก้าวหน้าในการรวม ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ที่อ้างถึงในมาตรา ๑๑.๓ ในระบบพหุภาคี ภายหลังจากการประเมินผลนี้ สภาการปกครองจะตัดสินใจว่าจะมีการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงต่อไปแก่บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่อ้างถึงในมาตรา ๑๑.๓ ที่ไม่ได้รวมทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร เหล่านี้ไว้ในระบบพหุภาคี หรือจะใช้มาตรการอื่นๆ ที่เห็นสมควรว่าเหมาะสม
๑๑.๕. ระบบพหุภาคีจะรวมไว้ซึ่งทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตรที่ขึ้นบัญชีไว้ในภาคผนวก ๕ และเก็บรักษาไว้ในการรวบรวมนอกถิ่นที่อยู่ของศูนย์การวิจัยด้านการเกษตรนานาชาติของสภารับข้อปรึกษาในเรื่องการวิจัยด้านการเกษตรนานาชาติ (Consultative Group on International Agricultural Research CGIAR) ที่เปิดช่องให้ในมาตรา ๑๕.๑ (เอ) และในสถาบันนานาชาติอื่น ๆ ด้วย โดยสอดคล้องกับมาตรา ๑๕.๕
๑๒.๑. ภาคีสมาชิกตกลงว่าการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ภายใต้ระบบพหุภาคี ตามที่นิยามไว้ในมาตรา ๑๑ จะสอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งสนธิสัญญานี้
๑๒.๒. ภาคีสมาชิกตกลงที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นทางด้านกฎหมาย หรือมาตรการที่เหมาะสมอื่นๆ เพื่อเปิดช่องให้มีการเข้าถึงนั้นแก่ภาคีสมาชิกสมาชิกผ่านทางระบบพหุภาคี โดยผลเช่นนี้ การเข้าถึงนั้นจะเปิดช่องให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลภายใต้เขตอำนาจของภาคีสมาชิกด้วย ภายใต้บทบัญญัติของมาตรา ๑๑.๔
๑๒.๓. การเข้าถึงนั้นจะเปิดช่องให้สอดคล้องกับเงื่อนไขต่อไปนี้ (A.) การเข้าถึงจะเปิดช่องให้เพียงเพื่อความประสงค์ที่จะใช้และอนุรักษ์ เพื่อการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์ และการฝึกอบรมด้านอาหารและการเกษตร หากว่าความประสงค์นั้นไม่รวมถึงการใช้เป็นเคมีภัณฑ์ การใช้เป็นเภสัชภัณฑ์ และ / หรือ การใช้ที่ไม่ใช่เพื่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องเลี้ยงอื่นๆ ในกรณีของพืชเพื่อการเพาะปลูกที่ใช้ได้หลายรูปแบบ (อาหารและไม่ใช่อาหาร) ความสำคัญของพืชนั้นเพื่อความมั่นคงทางอาหารควรจะเป็นตัวกำหนดการรวมพืชเหล่านั้นเข้าไว้ในระบบพหุภาคี และการมีไว้เพื่อการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึง
(B.) การเข้าถึงจะพ้องกับการสำรวจ โดยไม่มีความจำเป็นต้องติดตามการเข้าถึงเฉพาะราย และไม่มีค่าใช้จ่าย หรือ เมื่อมีการเก็บค่าธรรมเนียม ก็จะไม่เกินกว่าค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่เกี่ยวข้อง
(C.) ข้อมูลที่มีการบันทึก (passport data) ไว้ทั้งหลาย และภายใต้กฎหมายที่ใช้ได้ ข้อสนเทศที่มีรายละเอียดที่ไม่เป็นความลับอื่นๆ ที่มีอยู่ จะมีไว้ร่วมกับ ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ที่เปิดช่องให้ใช้
(D.) ผู้รับจะไม่อ้างสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา หรือสิทธิอื่นใดที่จำกัดการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร หรือชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบทางพันธุกรรมของทรัพยากรเหล่านั้น ในรูปแบบที่ได้รับจากระบบพหุภาคี (E.) การเข้าถึง ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ภายใต้การพัฒนารวมถึงวัสดุที่ได้รับการพัฒนาโดยเกษตรกร จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้พัฒนา ภายในช่วงเวลาที่มีการพัฒนานั้น
(F.) การเข้าถึง ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ที่มีการคุ้มครองโดยสิทธิ ในทรัพย์สินทางปัญญา หรือทรัพยสิทธิอื่นๆ จะสอดคล้องกับข้อตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องและกับกฎหมายภายในประเทศที่เกี่ยวข้อง
(G.) ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตรที่มีการเข้าถึงภายใต้ระบบพหุภาคีและอนุรักษ์ไว้ จะคงมีไว้ให้แก่ระบบพหุภาคีโดยผู้รับ ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตรนั้นไปทั้งหลาย ภายใต้เกณฑ์ของสนธิสัญญานี้ และ (H.) โดยไม่มีอคติต่อบทบัญญัติอื่นๆ ภายใต้มาตรานี้ ภาคีสมาชิกตกลงว่าการเข้าถึง ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ที่พบในสภาพในถิ่นที่อยู่ จะเปิดช่องให้ตามกฎหมายภายในประเทศ หรือในกรณีที่ไม่มีกฎหมายดังกล่าว โดยสอดคล้องกับมาตราฐานซึ่งอาจจะกำหนดโดยสภาการปกครอง
๑๒.๔. โดยผลนี้ การอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงที่สอดคล้องกับมาตรา ๑๒.๒ และ ๑๒.๓ ข้างต้น จะเปิดช่องให้ตามข้อตกลงถ่ายโอนวัสดุมาตรฐาน (เอ็มทีเอ) (standard MTA) ซึ่งจะมีการรับเอาโดยสภาการปกครอง และมีบทบัญญัติของมาตรา ๑๒.๓ (เอ) (ดี) และ (จี) รวมไปถึงบทบัญญัติว่าด้วยการแบ่งปันผลประโยชน์ที่กำหนดไว้ในมาตรา ๑๓.๒ (ดี) (๒) และบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ของสนธิสัญญานี้และบทบัญญัติที่ผู้รับ ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ไปยังบุคคลหรือหน่วยงานอื่นรวมไปถึงการถ่ายโอนอื่นๆ ซึ่ง ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร นั้นในภายหลัง
๑๒.๕. ภาคีสมาชิกจะให้ความแน่ใจว่าโอกาสที่จะได้รับการเยียวยา (สิทธิไล่เบี้ย) (recourse) จะมีอยู่โดยสอดคล้องกับข้อกำหนดแห่งเขตอำนาจที่มีอยู่ ภายใต้ระบบกฎหมายของพวกเขา ในกรณีที่มีความขัดแย้งตามสัญญาเกิดขึ้นภายใต้ เอ็มทีเอ ดังกล่าว รับรองว่าพันธกรณีที่เกิดขึ้นภายใต้ เอ็มทีเอ ดังกล่าวขึ้นอยู่เด็ดขาดกับภาคีแห่ง เอ็มทีเอ เหล่านั้น
๑๒.๖. ในสถานการณ์หายนะฉุกเฉิน ภาคีสมาชิกตกลงที่จะเปิดช่องให้มีการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ที่เหมาะสมในระบบพหุภาคีเพื่อความประสงค์ที่จะช่วยเหลือการจัดตั้งใหม่ซึ่งระบบการเกษตร โดยความร่วมมือกับผู้ประสานการเยียวยาความหายนะ
มาตรา ๑๓ การแบ่งปันผลประโยชน์ภายใต้ระบบพหุภาคี๑๓.๑. ภาคีสมาชิกรับรองว่าการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึง ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ซึ่งรวมไว้ในระบบพหุภาคีประกอบตัวเองขึ้นเป็นผลประโยชน์หลักของระบบพหุภาคี และตกลงว่าผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการนั้นจะมีการแบ่งปันอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกันโดยสอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งมาตรานี้
๑๓.๒.
ภาคีสมาชิกตกลงว่าผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการใช้ รวมถึงการพาณิชย์
ซึ่ง ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร
ภายใต้ระบบพหุภาคีจะมีการแบ่งปันอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกันผ่านทางกลไกต่อไปนี้
คือ การแลกเปลี่ยนข้อสนเทศ การเข้าถึงและถ่ายโอนเทคโนโลยี
การสร้างความสามารถ และการแบ่งปันผลประโยชน์ที่เกิดจากการพาณิชย์
โดยคำนึงถึงลำดับความสำคัญของบริเวณที่มีการประกอบกิจกรรมในการเคลื่อนไหวของแผนการดำเนินงานทั่วโลก
(Global
Plan of Action)
ภายใต้การชี้แนะจากสภาการปกครอง
ภาคีสมาชิกตกลงที่จะมีข้อสนเทศซึ่งจะนอกเหนือจากสิ่งอื่นๆ
(inter alia)
รวมเข้าไว้ซึ่งบัญชีรายชื่อ
(catalogues)
และบัญชีรายการ
(inventories)
ข้อสนเทศเกี่ยวกับเทคโนโลยี ผลลัพธ์ของการวิจัยทางด้านเทคนิค
วิทยาศาสตร์ และสังคม
เศรษฐกิจ
รวมถึงการแยกแยะลักษณะ การประเมินคุณค่า และการใช้ประโยชน์
ที่เกี่ยวกับทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร
ภายใต้ระบบพหุภาคี ข้อสนเทศนั้นจะมีไว้ หากไม่เป็นความลับ
ภายใต้กฎหมายที่ใช้ได้
และโดยสอดคล้องกับความสามารถของประเทศข้อสนเทศนั้นจะมีไว้ให้แก่ภาคีสมาชิกทั้งหมดของสนธิสัญญานี้ผ่านทางระบบข้อสนเทศที่เปิดช่องไว้ให้ในมาตรา
๑๗
(๑)
ภาคีสมาชิกอาสาที่จะเปิดช่องให้ และ/หรือ
อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงเทคโนโลยี เพื่อการอนุรักษ์ การแยกแยะลักษณะ
การประเมินคุณค่า และการใช้ ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร
ที่อยู่ภายใต้ระบบพหุภาคี
รับรองว่าเทคโนโลยีบางประเภทจะถูกถ่ายโอนได้โดยผ่านวัสดุทางพันธุกรรม
ภาคีสมาชิกจะเปิดช่องให้ และ/หรือ
อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงเทคโนโลยีและวัสดุทางพันธุกรรมซึ่งอยู่ภายใต้ระบบพหุภาคีนั้น
และการเข้าถึงพันธุ์ที่ได้รับการปรับปรุง
และวัสดุทางพันธุกรรมที่ได้รับการพัฒนาผ่านทางการใช้
ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ภายใต้ระบบพหุภาคี
โดยสอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งมาตรา ๑๒ การเข้าถึงเทคโนโลยี
พันธุ์ที่ได้รับการปรับปรุง และวัสดุทางพันธุกรรมเหล่านี้จะเปิดช่องให้
และ/หรือ
อำนวยความสะดวก ในขณะเดียวกับการให้ความเคารพ ในทรัพยสิทธิ
และกฎหมายว่าด้วยการเข้าถึงที่ใช้ได้
และโดยสอดคล้องกับความสามารถของประเทศ
โดยคำนึงถึงความจำเป็นของ ประเทศกำลังพัฒนา
และประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงการปรับตัวทางเศรษฐกิจ
ที่โดยนัยทางการลำดับความสำคัญที่พวกเขาเห็นพ้องกันในการสร้างความสามารถในทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตรในแผนและรายการของเขา
เมื่อเข้าที่
ในเรื่องเกี่ยวกับทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร
ที่อยู่ภายใต้ระบบพหุภาคี ภาคีสมาชิกตกลงที่จะให้ลำดับความสำคัญแก่
(๑)
การสร้าง และ/หรือ
การทำให้เข้มแข็งขึ้นซึ่งรายการสำหรรับการศึกษาและการฝึกอบรมในทางวิทยาศาสตร์และทางเทคนิคในการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนซึ่ง
ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร
(๒)
การพัฒนา
และการสร้างความมั่นคงในสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนซึ่ง
ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร โดยเฉพาะใน
ประเทศกำลังพัฒนา และประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงการปรับตัวทางเศรษฐกิจ
และ (๓)
ดำเนินการด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
และหากเป็นไปได้ใน ประเทศกำลังพัฒนา
และประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงการปรับตัวทางเศรษฐกิจ
โดยความร่วมมือกับสถาบันของประเทศนั้นๆ
และพัฒนาความสามารถสำหรับการวิจัยในสาขาที่พวกเขามีความจำเป็นนั้น (๑) ภาคีสมาชิกตกลง ภายใต้ระบบพหุภาคี ที่จะใช้มาตรการเพื่อให้บรรลุถึงการแบ่งปันผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ผ่านทางความเกี่ยวพันกับภาคเอกชนและภาครัฐในกิจกรรมที่ระบุภายใต้มาตรานี้ ผ่านทางการเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือ รวมทั้งกับภาคเอกชนใน ประเทศกำลังพัฒนา และประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงการปรับตัวทางเศรษฐกิจ ในการพัฒนาการวิจัยและเทคโนโลยี
(๒) ภาคีสมาชิกตกลงว่าข้อตกลงถ่ายโอนวัสดุมาตรฐานที่อ้างถึงในมาตรา ๑๒.๔ จะรวมถึงข้อกำหนดว่าผู้รับที่ใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็น ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร และที่รวมเข้าไว้ซึ่งวัสดุที่ได้มาจากระบบพหุภาคี จะจ่ายเข้าสู่กลไกที่อ้างถึงในมาตรา ๑๙.๓ (เอฟ)ซึ่งการแบ่งปันที่เท่าเทียมกันในผลประโยชน์ที่เกิดจากพาณิชยกรรมในผลิตภัณฑ์นั้น ยกเว้นเมื่อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีไว้โดยไม่มีข้อจำกัดต่อบุคคลอื่นในอันที่จะทำการวิจัยและการปรับปรุงพันธุ์ต่อไป ในกรณีดังกล่าวผู้รับซึ่งประโยชน์ในเชิงพาณิชย์จะได้รับการสนับสนุนให้ทำการชำระผลประโยชน์นั้น
สภาการปกครองจะในการประชุมครั้งแรก กำหนดระดับ รูปแบบ และธรรมเนียมในการชำระผลประโยชน์ โดยสอดคล้องกับวิธีปฏิบัติในทางพาณิชยกรรม สภาการปกครองอาจจะตัดสินใจที่จะสร้างระดับการชำระผลประโยชน์ที่แตกต่างกันสำหรับประเทภของผู้รับที่ใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ในผลิตภัณฑ์นั้นที่ต่างกัน สภาการปกครองอาจจะตัดสินใจอีกด้วยในเรื่องความจำเป็นที่จะต้องให้การยกเว้นการชำระผลประโยชน์นั้นแก่เกษตรกรรายย่อยใน ประเทศกำลังพัฒนา และประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงการปรับตัวทางเศรษฐกิจ สภาการปกครองอาจจะในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง พิจารณาระดับการชำระผลประโยชน์ โดยมุมมองที่จะบรรลุถึงการแบ่งปันผลประโยชน์ที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกัน และอาจจะประเมินอีกด้วย ภายในระยะเวลาห้าปีนับจากวันทีสนธิสัญญานี้มีผลบังคับใช้ ว่าข้อกำหนดการชำระผลประโยชน์ที่ต้องดำเนินการใน เอ็มทีเอ จะใช้กับกรณีที่ผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ในเชิงพาณิชย์ได้มีไว้โดยไม่มีข้อจำกัดต่อบุคคลอื่นในอันที่จะทำการวิจัยและการปรับปรุงพันธุ์ต่อไปอีกด้วย
๑๓.๓ ภาคีสมาชิกตกลงว่าผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการใช้ ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ที่ได้แบ่งปันกันภายใต้ระบบพหุภาคี ควรจะผ่านในชั้นต้น โดยทางตรงและทางอ้อม ไปยังเกษตรกรในทุกประเทศ โดยเฉพาะใน ประเทศกำลังพัฒนา และประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงการปรับตัวทางเศรษฐกิจ ผู้ที่ได้อนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนซึ่ง ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร
๑๓.๔ สภาการปกครองจะในการประชุมครั้งแรก พิจารณานโยบายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องสำหรับการให้การช่วยเหลือพิเศษภายใต้กลยุทธ์การให้ทุนที่ได้ตกลงกันสร้างไว้ภายใต้มาตรา ๑๘ เพื่อการอนุรักษ์ ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ในประเทศกำลังพัฒนา และประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงการปรับตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งการช่วยเหลือให้เกิดความหลากหลายของ ทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร ใน ร ของเขาเป็นสิ่งที่เห็นความสำคัญชัดเจน และ/หรือ เป็นผู้ที่มีความจำเป็น เป็นพิเศษ ๑๓.๕ ภาคีสมาชิกรับรองว่าความสามารถในการดำเนินการอย่างเต็มที่ซึ่งแผนการดำเนินงานทั่วโลก (Global Plan of Action) โดยเฉพาะใน ประเทศกำลังพัฒนา และประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงการปรับตัวทางเศรษฐกิจ จะขึ้นอยู่อย่างมากกับการดำเนินการที่มีประสิทธิผลตามมาตรานี้ และตามกลยุทธ์การให้ทุนตามที่เปิดช่องให้ในมาตร ๑๘ ๑๓.๖ ภาคีสมาชิกจะพิจารณารูปแบบของกลยุทธ์การช่วยเหลือในการแบ่งปันผลประโยชน์โดยสมัครใจ โดยที่อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร (Food Processing Industries) ที่ได้ประโยชน์จากทรัพยากรพันธุกรรมพืชเพื่ออาหารและการเกษตร จะช่วยเหลือระบบพหุภาคี
|