ประวัติความเป็นมา


พระบรมมหาราชวังแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

          มีคำกล่าวมาแต่โบราณว่า การสร้างบ้านสร้างเมืองของไทยย่อมีสิ่งสำคัญรวมอยู่ด้วยกัน 3 สิ่งคือ บ้าน วัง วัด ซึ่งมีความหมายถึงการสร้างถิ่นฐานบ้านเรือนของราษฎร การสถาปนาพระราชมณเฑียรสถานของพระมหากษัตร และการสร้างวัดวาอารามเพื่อทะนุบำรุงพระศาสนา  ราชธานีของไทยนับตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย  กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ ล้วนสร้างขึ้นตามขนบนิยมนี้ โดยเฉพาะการสถาปนาพระราชฐานที่ประทับหรือพระบรมมหาราชวัง ย่อมสรรสร้างด้วยฝีมือช่างอย่างวิจิตรบรรจง  เพราะเป็นเครื่องเจริญขัตติยราชอิสริยยศ และเป็นเกียรติยศแก่บ้านเมือง

การสถาปนาพระบรมมหาราชวัง

            เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี ในพุทธศักราช 2325 มีพระบรมราชโองการให้สร้างพระนครและสถาปนาพระราชมณเฑียรสถานทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา พระราชมณเฑียรสถานเมื่อแรกสร้างทำแค่พอเป็นที่ประทับ ล้อมรอบด้วยปราการระเนียดไม้สำหรับตั้งการพระราชพิธีปราบดาภิเษก  หลังจากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างปราสาทราชมณเฑียร พระตำหนัก  เรือนหลวง โดยครบถ้วน รวมทั้งพระอารามในเขตพระราชฐานสำหรับประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระราชทานนามว่า วัดพระศรีรัตนศาสดาราม  เมื่อการทั้งปวงแล้วเสร็จ โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเต็มตามโบราณราชประเพณี และมีพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียรเมื่อพุทธศักราช 2328

ความสำคัญของพระบรมมหาราชวัง

            นับแต่โบราณมา นอกจากเป็นพระราชฐานที่ประทับของพระมหากษัตริย์แล้ว พระบรมมหาราชวังยังเป็นศูนย์กลางการปกครองของบ้านเมือง เพราะเป็นสถานที่ซึ่งทรงปฏิบัติราชการแผ่นดินและทรงประกอบพระราชพิธีต่างๆ ตามโบราณราชประเพณี เขตพระราชฐานจึงแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เขตพระราชฐานชั้นนอก เป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวกับราชการที่พระมหากษัตริย์ทรงกำกับดูแลใกล้ชิดพระเนตรพระกรรณ เขตพระราชฐานชั้นกลาง เป็นสถานที่ตั้งพระมหาปราสาท พระที่นั่ง ท้องพระโรงที่เสด็จออกทรงว่าราชการ ทรงประกอบพระราชพิธี และเสด็จออกรับแขกเมืองที่เข้ามาเจริญพระราชไมตรี  เขตพระราชฐานชั้นใน เป็นที่รโหฐาน สำหรับประทับส่วนพระองค์ พร้อมด้วยพระอัครมเหสี พระราชโอรส พระราชธิดา และเป็นที่อยู่ของข้าราชสำนักฝ่ายใน ผู้ที่จะผ่านเข้าออกเขตพระราชฐานชั้นในได้มีเพียงสตรี  ถ้าบุรุษ เช่น พระสงฆ์  แพทย์หลวง และเจ้าพนักงาน มีภารกิจหน้าที่จะต้องเข้าไปทำการในเขตพระราชฐานชั้นใน ต้องมีพนักงานโขลนกำกับไปด้วยทุกแห่งจนกว่าจะกลับออกมา

คติความเชื่อเนื่องด้วยพระบรมมหาราชวัง

            เนื่องจากสังคมไทยยกย่องเทิดทูนพระมหากษัตริย์ไว้ในฐานะสูงสุด คือทรงเป็นสมมติเทวราช  ตามคติความเชื่อที่รับมาจากศาสนาต่างๆ  นอกจากนั้นยังทรงเป็นพระโพธิสัติว์ พระพุทธเจ้า  ดังจะเห็นได้จากคำเรียกพระราชอิศริยยศ สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว  และพระราชสมัญญาเป็น ธรรมราชา  ซึ่งมีความหมายว่า ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์ด้วยทศพิธราชธรรมและสังคหวัตถุ ด้วยเหตุนี้ การตกแต่งประดับประดาพระราชมณเฑียรสถาน จึงแฝงเร้นด้วยคติความเชื่อถือต่างๆ เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศ  เช่น  สถาปนาพระมหาปราสาทอันเป็นเหมือนพระวิมานแห่งเทพเป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดิน  ลวดลายประดับ เช่น รูปพระนารายณ์ทรงครุฑ หมายถึง พระมหากษัตริย์ในฐานะทรงเป็นเทพอวตารมาปราบยุคเข็ญ  การประดิษฐานพระแท่นราชบัลลังก์ภายใต้พระมหาเศวตรฉัตรเก้าชั้นเป็นสัญญลักษณ์แห่งความเป็นสมมติเทวราช  ประดุจประทับอยู่เหนือพระสุเมรุราช  เป็นต้น

การบูรณะปฏิสังขรณ์

            พระบรมมหาราชวังแห่งกรุงรัตนโกสินทร์นับแต่สถาปนาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเป็นต้นมา สมเด็จพระมหากษัตริยิยาธิราชเจ้าแห่งพระบรมราชจักรีทุกพระองค์ได้ทรงทะนุบำรุงและทรงสร้างสิ่งต่างๆ ไว้โดยลำดับ การปฏิสังขรณ์พระบรมมหาราชวัง และวัดพระศรีรัตนศาสดารามครั้งใหญ่มักมีทุก 50 ปี เนื่องจากเป็นเวลาที่ถาวรวัตถุสถานต่างๆ เริ่มชำรุดทรุดโทรมลง เช่น การปฏิสังขรณ์ในโอกาสฉลองพระนครครบรอบ 100 ปี ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  การปฏิสังขรณ์ในงานฉลองพระนครครบ 150 ปี  ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  และการบูรณะปฏิสังขรณ์ในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี ในพุทธศักราช 2525  ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ทรงเป็นแม่กองอำนวยการบูรณะปฏิสังขรณ์
            ในปัจจุบัน  แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน  พระราชวังดุสิต แต่พระราชมณเฑียรสถานอันประกอบด้วย พระมหาปราสาท พระที่นั่ง พระตำหนัก เรือนหลวง หอใหญ่น้อย ยังคงได้รับการดูแลรักษาไว้ให้วิจิตรงดงาม  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังเสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และเสด็จพระราชดำเนินมาในการพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ตามโบราณราชประเพณี
            พระบรมมหาราชวังแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ นับเป็นเอกลักษณ์ของชาติและมรดกอันล้ำค่าทั้งทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม ปวงชนชาวไทยทุกหมู่ทุกเหล่าต่างสำนึกและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงทะนุบำรุงประเทศชาติให้มีเอกราชและเจริญรุ่งเรืองสืบมาจนทุกวันนี้

gpl-2.jpg (136607 bytes)

gpl-4.jpg (130237 bytes)