อ่านหน้าต่อไปสิคะ 

วัยสูงอายุ

คนชรา
         
"คนชรา..."

          "คนแก่..."
         
"คนสูงอายุ..."    
         
ครับ...ทำไมคนจำนวนมากถึงกล่าวคำเหล่านี้นักหนา ทั้งๆ ที่ตัวเองจะต้องพบกับคำดังกล่าวไม่วันใดก็วันหนึ่งหากไม่รีบด่วนตายเสียก่อนตั้งแต่ยังเด็ก หรือยังหนุ่มสาว
          หลายๆ คนถามว่าเมื่อไรจึงจะเป็นคนชรา  หรือเมื่อไรจึงจะเป็นคนแก่  เพราะบางคนอายุ 50 ปีก็ดูแก่มากแล้ว  แต่บางคนอายุ 70 ยังดูเป็นคนหนุ่มคนสาวอยู่เลย ดังนั้นคำว่าคนแก่หรือคนชราจึงมิได้ขึ้นกับอายุแต่เพียงอย่างเดียว อย่างที่คนอเมริกันพูดว่า " อายุเป็นเพียงตัวเลข" เท่านั้น แต่ขึ้นกับสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะขึ้นกับจิตใจของคนๆ นั้นเป็นหลัก  จนบางครั้งเราอาจจะได้ยินคำพูดเล่นๆ กับคนบางคนว่า "เฒ่าทารก" ก็มี  เพราะแม้ว่าเขาจะมีอายุมากแล้วแต่จิตใจของเขายังเหมือนเด็กเล็กๆ อยู่  ด้วยเหตุนี้จึงไมมีกฏเกณฑ์แน่นอนที่จะบอกชัดลงไปว่าเมื่อไรเราจึงจะเป็นคนชราหรือคนแก่
          อย่างไรก็ตามในชีวิตการทำงานของเราทุกคน มีคำๆ หนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของเรา  และมักใช้เป็นเกณฑ์ว่าคนนั้นแก่แล้วหรือชราแล้ว  นั้นก็คือคำว่า "ปลดเกษียณ"  คนที่ถูกปลดเกษียณโดยทั่วๆ ไปแล้วจะถือว่าคนนั้นแก่แล้วหรือชราแล้ว สมควรที่จะเลิกทำงานและหยุดพักผ่อนเสียที  ซึ่งในบ้านเราโดยทั่วๆ ไปคนที่มีอายุครบ  60 ปี แล้วก็จะถูกปลดเกษียณ แต่ในบางประเทศปลดเกษียณเมื่ออายุ 55 ปี  หรือบางประเทศก็ปลดเกษียณเมื่ออายุ 65 ปี
          คนที่ถูกปลดเกษียณแล้วก็มักจะถูกเรียกว่าคนแก่หรือคนชรา หรือคนสูงอายุ ด้วยเหตุนี้หากจะใช่เกณฑ์การปลดเกษียณเป็นหลัก คนที่มีอายุ 60 ปีก็จะถูกถือว่าเป็นคนแก่หรือคนชราสำหรับบ้านเรา
          ดังนั้นใครก็ตามที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปก็มักจะถูกถือว่าเป็นคนชราหรือคนแก่  และก็เป็นที่ยอมรับของสังคมในบ้านเรา  แม้ทางราชการก็ให้สิทธิพิเศษบางอย่างแก่คนที่มีอายุเกิน 60 ปีแล้ว  เช่นสิทธิการไม่ต้องมีบัตรประชาชน สิทธิการได้รับการลดราคาเดินทางโดยทางรถไฟ  รวมทั้งสวัสดิการอื่นๆ
          ส่วนใครจะยอมรับว่าเป็นคนแก่หรือไม่หลังจากอายุครบ 60 ปีแล้วนั้นก็ขึ้นกับแต่ละบุคคลเป็นหลัก  บางคนแม้จะถูกปลดเกษียณแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดทำงาน คือยอมให้ปลดแต่ไม่ยอมเกษียณ แต่บางคนก็หยุดทำงานไปเลย เพราะเห็นว่าถึงเวลาที่จะพักผ่อนได้แล้ว  ทั้งนี้ทั้งนั้นฐานะทางด้านการเงินก็นับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอยู่มาก  สำหรับการทำงานหรือเลิกทำงานหลังเกษียณแล้ว
          ความรู้สึกสูญเสียของคนสูงอายุ
          คนที่ก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ จะมีความรู้สึกสุญเสียอะไรหลายๆอย่างในชีวิตของตนที่เคยมีในอดีต  และความรู้สึกดังกล่าวบางครั้งก็มีมาก  บางครั้งก็มีน้อย สุดแต่ว่าจะทำใจได้หรือไม่  ถ้าทำใจไม่ได้ก็จะมีความรู้สึกสูญเสียมาก และอาจเป็นสาเหตุกระทบกระเทือนกับการดำรงชีวิตในระยะต่อมาด้วย
          ความรู้สึกสูญเสียของผู้สูงอายุที่มักจะพบอยู่เสมอโดยเฉพาะในช่วงปลดเกษียณใหม่ๆ ก็คือ

  • การสูญเสียงานหรือาชีพ   คนที่ถูกปลดเกษียณจะรู้สึกว่าตนเองสูญเสียงานการหรืออาชีพที่เคยทำอยู่ทันที  ความรู้สึกนี้จะมีมากหรือน้อยก็อยู่ที่ผู้นั้นจะทำใจได้มากน้อยขนาดไหน และนับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ถูกปลดเกษียณคิดมากเกี่ยวกับชีวิตในอนาคตของตน  รายได้ที่เคยได้รับก็หมดไปหรือน้อยลง  ไม่ทราบว่าจะมีเงินพอจับจ่ายใช้สอยหรือไม่  จึงก่อให้เกิดความวิตกกังวลใจกับชีวิตของตนเอง และอาจทำให้เป็นคนเศร้าสร้อย หงอยเหงา  และมีความรู้สึกไม่อยากมีชีวิตต่อไป อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ถูกปลดเกษียณแล้วมักจะมีอายุสั้น เพราะความท้อแท้และความสิ้นหวังในชีวิตของตนเอง

   

อ่านหน้าต่อไปสิคะ