-
ความสิ้นหวัง คนวัยสูงอายุที่ปลดเกษียณแล้วอยู่บ้านเฉยๆ
ไม่ได้ทำอะไร ปล่อยให้วันเวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์
มักจะมีความคิดหมดอาลัยตายอยากในชีวิตของตนเอง
หรือกลายเป็นคนสิ้นหวัง เพราะไม่ทราบว่าจะมีชีวอติยู่ต่อไปทำไม
เพราะตนเองไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อผู้ใดแล้ว
ชีวิตจึงเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยและสิ้นหวัง
-
ความตาย
สิ่งที่คนมีอายุจะคิดถึงบ่อยและมากว่าสิ่งอื่นก็คือความตาย
บางคนพยายามดิ้นรนหนีความตายด้วยการหายาต่างๆ
ที่เขาบอกว่าทานแล้วอายุยืนนาน บางคนก็ใช้วิธีการออกกำลังกายแทน
แต่บางคนไม่ยอมทำอะไรเลย
คนที่ทำใจได้ก็ไม่ความกระวนกระวายใจมากนักเกี่ยวกับความตาย
แต่บางคนก็ยังทำใจไม่ได้ หรือยังห่วงโน่นห่วงนี่อยู่มาก
ก็พยายามดิ้นรน กระเสือกระสนจะหนีความตายให้ได้
ทั้งๆที่รู้ดีว่าไม่มีใครหนีความตายพ้น
แต่ก็พยายามดิ้นรนจนกลายเป็นความเครียดไปในที่สุด
-
การนึกถึงแต่อดีต
คนที่มีอายุแล้วมักจะพูดึงอดีตของตนอยู่ตลอดเวลา
เพื่อแสดงความภาคภูมิใจในงานหรือสิ่งที่ตนเคยทำมาในอดีต
และชอบเล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับคนๆ เดียวกันจนเป็นที่รำคาญของคนฟัง
แต่คนเล่าก็ยังอยากเล่าต่อไปทุกครั้งที่เจอกัน
-
การดื้อรั้น
คนที่สูงอายุแล้วมักจะดื้อรั้น เพราะถือว่าตัวเองเกิดก่อน
มีประสบการณ์มากกว่า ใครอย่ามาสั่งมาสอนไม่เชื่อทั้งนั้น ทั้งๆ
ที่เขาพยายามชี้แจงเหตุผลให้ฟังแต่ก็มักไม่ยอมรับฟังยังคงดื้อรั้นต่อไป
-
การถือดี
คนที่มีอายุแล้วมักจะถือดี
เพราะถือว่าตัวเองก็มีดีเหมือนกัน
ไม่เช่นนั้นไม่มีอายุยืนมาจนถึงบัดนี้ หรือก้าวหน้ามาถึงจุดนี้
จึงมีความรู้สึกถือดีในความสามารถของตัวเอง
หยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง
ยิ่งบวกกับความรู้สึกดื้อรั้นของตัวเองเข้าไปด้วยแล้ว
การถือดีก็ยิ่งแสดงออกมาชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ขี้บ่นจู้จี้
คำว่า " คนแก่ขี้บ่น" เป็นคำที่เราได้ยินกันทั่วๆไป
เหตุไรคนแก่จึงชอบขี้บ่นยังหาคำตอบที่ถูกต้องแท้จริงไม่ได้
แต่อาจเป็นเพราะคนแก่ได้ผ่านชีวิตต่างๆมามากแล้ว
จึงมักมีประสบการณ์หรือได้พบเห็นอะไรมามากๆ
จึงพยายามพูดออกมาให้คนที่อยู่รอบๆ ข้างได้ฟังได้รับทราบ
ความจริงแล้วหากจะพิจาณาให้ดีการบ่นของคนแก่
เป็นการบ่นด้วยความหวังดีมากว่าความหวังร้าย แต่เมื่อพูดหลายๆ
ครั้งเข้าก็เลยกลายเป็นที่รำคาญของคนฟัง
จึงกลายเป็นขี้บ่นหรือของไม่ดีไป
-
ชอบปรับทุกข์
คนที่สูงอายุแล้วมักชอบทำการปรับทุกข์กับคนอื่น
ไม่ว่าจะพบใครก็มักจะมีเรื่องปรับทุกข์กับเขาเสมอ
บางเรื่องก็ไม่น่าจะทำการปรับทุกข์เพราะเป็นเรื่องของคนอื่นเขา
แต่คนแก่ก็มักจะเอาเรื่องต่างๆ มาเป็นทุกข์ของตัวเองหมด
จึงกลายเป็นคนแบกแต่ทุกข์
และเมื่อพบใครก็พยายามแบ่งทุกข์นั้นให้คนอื่นแบกต่อ
หากเขาไม่ยอมรับแบกก็มีความน้อยอกน้อยใจว่าเขาไม่รักเรา
หรือไม่ยอมช่วยเหลือเรา
ผลที่สุดทุกข์ของตัวเองก็เพิ่มมากขึ้นทุกๆ วัน
-
ชอบแบกภาระ
คนที่ย่างเข้าสู่วัยสูงอายุแบกภาระของตัวเองคนเดียวก็น่าจะพอแล้ว
แต่ก็มีคนสูงอายุจำนวนมากชอบเอาภาระของคนอื่น เช่น ของลูกหลาน
ของเหลนมาแบกไว้กับตัวเองคนเดียว กลัวจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้
เมือเขาไม่เป็นอย่างที่เราคิด อย่างที่เราต้องการก็มีความทุกข์
และต้องแบกภาระห่อใหญ่ไว้กับตัวและบางคนก็ตายไปพร้อมกับห่อภาระใหญ่บนบ่าของตัวเอง
-
ชอบฝัน
เป็นที่น่าแปลกว่า คนที่มีอายุแล้วชอบฝันมากว่าคนหนุ่มสาว
อาจจะเป็นเพราะมีเวลาว่างมากจึงมีความคิดมาก
และตกกลางคืนก็เลยเก็บเอาไปฝัน และมีบ่อยๆ
ครั้งที่ชอบฝันถึงความตายของตัวเอง
เพราะเป็นสิ่งที่ตนเองคิดอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
-
ไม่ต้องการให้ใครสงสาร
คนที่สูงอายุแล้วโดยทั่วๆ ไปมักจะพยายามทำการช่วยเหลือตนเอง
บางครั้งคนเห็นว่าแก่แล้วมาช่วยพยุงให้เดิน
ก็มักจะไม่ต้องการหรือแสดงการปัดไม้ปัดมือออกมาให้เห็น
เพราะไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร
ยิ่งคนที่ขาดความเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดจากครอบครัวด้วยแล้ว
ก็ยิ่งแสดงออกให้เห็นมากขึ้น
ทั้งนี้อาจเป็นการยืนยันออกมาให้คนที่อยู่รอบข้างเห็นก็ได้ว่า
สามารถอยู่ด้วยตัวเองได้ ไม่เห็นต้องง้อใครหรือพึ่งใคร นับเป็นทิฏฐิอีกอย่างหนึ่งของคนสูงอายุ
-
ต้องการเพื่อน
คนที่ล่วงเข้าวัยสูงอายุแล้วมักคิดถึงเพื่อนและต้องการเพื่อนอย่างที่สุด
ครั้งใดที่มีโอกาสได้พบเพื่อนเก่า
ดูเหมือนจะเป็นโอกาสที่มีความสุขมากที่สุด
แต่ก็น่าแปลกยิ่งแก่ยิ่งหาเพื่อนยาก เพราะเพื่อนแต่ละคนก็จากไปแล้ว
เพื่อนที่เหลือก็อายุมากแล้ว
เขาก็อยู่กับบ้านกับช่องเช่นเดียวกับเรา
โอกาสที่จะพบปะกันจึงมีน้อย