การเกิด (ต่อ)
ค.
พันศรโยธา
ผู้เป็นบิดาของนางพิมพิลาไลยทำนายฝันแก่นางศรีประจันผู้ภรรยาว่า
ได้แหวนประดับลูกจะเป็นหญิง
ด้วยเป็นแหวนของพระพิศณุกรรม์ |
|
รูปร่างงามจริงตละแกล้งสรร
จะเป็นช่างใครนั้นไม่ทันเลย |
ในระยะตั้งครรภ์นี้มีคติถืออยู่ว่า
ผู้ตั้งครรภ์ต้องทำใจให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ
ไม่ทำบาป
ไม่ให้อารมณ์เสีย
ทั้งนี้ถือว่าจะเป็นผลให้ลูกเกิดมาสวยงาม
และการคลอดลูกก็จะปลอดภัยด้วย
ความปรากฎในกลอนว่า
จะกล่าวถึงทองประศรีมีครรภ์แก่
ผิวพรรณดังสุวรรณมาทาบทา
แก้มทั้งสองข้างดั่งปรางทอง
ผิวเนื้อเป็นนวลควรแลเล็ง
ถือศีลภาวนาเป็นนิตย์
ภาวนาบูชาด้วยดอกบัว |
|
งามแท้เผ้าผมก็สมหน้า
ดวงหน้าดั่งดวงจันทร์เมื่อวันเพ็ง
เต้านมทั้งสองก็ครัดเคร่ง
ดูปลั่งเปล่งน่าชมพอสมตัว
น้อมจิตนบนิ้วขึ้นเหนือหัว
ไม่กลัวที่จะเป็นอันตราย |
๓.
ในระยะคลอด
โดยปกติตั้งครรภ์ครบ ๑๐
เดือน ก็จะมาถึงระยะคลอด
น่าสังเกตว่าขุนช้างคลอดยากถึงกับต้องข่ม
แต่ขุนแผนคลอดง่าย
ไม่ต้องช่วยหรือผิดปกติอย่างไร
ส่วนนางศรีประจันกลับคลอดพิมพิลาไลยยากที่สุดถึงกับผีเข้าเจ้าสิงกันทีเดียว
ข้อน่าสังเกตอย่างหนึ่งคือการตั้งชื่อเด็ก
ตามเรื่องขุนช้างขุนแผนนั้น
ตั้งชื่อกันโดยถือเวลาตกฟากเป็นสำคัญ
และถือเอานิมิตของเหตุการณ์บ้านเมืองเข้ามาประสมด้วย
ขอยกกลอนเกี่ยวกับการตั้งชื่อเด็กมาให้ฟังดังนี้
รายขุนช้าง
ปู่ย่าตายายสบายใจ
แม่ฝันว่านกตะกรุมคาบช้าง
พาไปให้ถึงในเรือนตน
เมื่อตกฟากฤกษ์พารของหลานชาย
จึงให้นามตามเหตุที่เป็นมา |
|
จะให้ชื่อหลานไว้เป็นมงคล
บินมาแต่ทางพนาสณฑ์
หัวล้านอกขนแต่เกิดมา
ช้างเผือกมาถวายพระพันวษา
หลานรักของข้าชื่อขุนช้าง |
รายพลายแก้ว
พ่อแม่ปรึกษากับย่ายาย
ฝ่ายตาตะแกเป็นหมอดู
ปีขาลวันอังคารเดือนห้า
กรุงจีนเอาแก้วอันแพรวพราย
ให้ใส่ปลายยอดพระเจดีย์ใหญ่
เรียกวัดพระยาไทยแต่ไรมา |
|
จะให้ชื่อหลานชายอย่างไรปู่
คิดคูณเลขอยู่ให้หลานชาย
ตกฟากเวลาสามชั้นฉาย
มาถวายพระเจ้ากรุงอยุธยา
สร้างไว้แต่เมื่อครั้งหงสา
ให้ชื่อว่าพลายแก้วผู้แววไว |
รายนางพิมพิลาไลย
ปู่ย่าตายายมาทำขวัญ
เลี้ยงมาได้ห้าขวบปลาย
ทรวดทรงส่งศรีไม่มีแม้น
ผมสลวยสวยขำงามเงา |
|
แหวนทองผูกพันเข้าเหลือหลาย
รูปกายงามยิ่งพริ้งเพรา
อรชรอ้อนแอ้นประหนึ่งเหลา
ให้ชื่อเจ้าว่าพิมพิลาไลย |
|