ประเพณีการแต่งงาน (ต่อ)

      
        ครั้นถึงตอนเช้าวันรุ่งขึ้นมีพิธีให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวตักบาตรร่วมกัน พระสงฆ์สวดมนต์ เด็กวัดวางบาตรให้ตัก ความตอนกลอนว่า

      ท่านผู้หญิงวันทองร้องเรียกบ่าว
เอาทารพีทองมาสองคัน
พระหมื่นศรีเข้าเรือนเตือนศรีมาลา
ศรีมาลาอายคนล้นประมาณ
นางวันทองร้องเรียกลูกสะใภ้
ทำบุญอย่าสูญเสียศรัทธา
ให้คดข้าวขาวๆ สักค่อนขัน
ช่วยไปยกกันวางกลางนอกชาน
ออกมาธารณะเสียหน่อยหลาน
แฝงม่านหน้าม่อยไม่ออกมา
แม่แข็งใจไปหน่อยนะแม่หนา
แม่จะเป็นเพื่อนพาเจ้าออกไปเอง

         แล้วก็ถึงเวลาใส่บาตร คือให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องจับทารพีอันเดียวกัน  เคล็ดมีว่า เจ้าสาวต้องการเป็นใหญ่ในการเรือน จึงพยายามจับทารพีตอนบน ผัวจะได้กลัว ใส่บาตรเสร็จแล้วเลี้ยงพระ ถวายของเสร็จแล้วพระกลับ เป็นอันหมดพิธี
            อนึ่งมีศัพท์เกี่ยวกับการแต่งงานที่ใช้ต่างกันอยู่ ๓ คำ คือ
        
๑.  อาวาห์                  ฝ่ายหญิงมาอยู่กับฝ่ายชาย
            ๒.  วิาาห์                    ฝ่ายชายไปอยู่กับฝ่ายหญิง
            ๓.  คนธรรพวิวาห์      ได้เสียกันเองแบบคนธรรพ์ คือผู้ใหญ่มิได้จัดให้
            ส่วนศัพท์อื่นๆ ที่จำเป็นต้องทราบ คือ
        
๑.  สินสอด                 คือเงินที่มอบแก่บิดามารดาหญิงเป็นค่าข้าวค่าน้ำนมที่เลี้ยงหญิงมา
            ๒.  ขันหมาก               คือขันใส่หมากพลูในพิธีแต่งงานเป็นของคำนับพ่อแม่ฝ่ายหญิง
            ๓.  สินสมรส              คือทรัพย์สินที่คู่แต่งงานหาได้เมื่อแต่งงานอยู่ด้วยกัน
            ๔.  สินบริคณห์           คือสินเดิมและสินสมรส
            ๕.  สินเดิม                  คือสินที่ต่างฝ่ายมีอยู่ก่อนแต่งงาน รวมทั้งทรัพย์ที่ได้มาโดยพินัยกรรมที่ได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมนั้นระบุไว้
        

         <<< กลับหน้าเดิม