ประเพณีการแต่งงาน
(ต่อ)
การหมั้นพลายแก้วกับนางพิม
นางทองประศรีกับเพื่อนบ้านอีกสี่คนเป็นเฒ่าแก่ดินทางไปขอนางพิม
แต่งเนื้อแต่งตัวกันอย่างเต็มที่
เฒ่าแก่นุ่งผ้าตามะกล่ำและห่มไสบปักไหม
ส่วนนางทองประศรีนุ่งผ้าตาบัวปอกห่มไสบขาวดอกพุด
เอาขี้ผึ้งเสกทาปากแล้วออกเดินทางทันที
นางศรีประจันก็จัดการต้อนรับด้วยการปูเสื่อ
มีหมากพลู น้ำ
ตามธรรมเนียม
สนทนาถึงทุกข์สุขว่าจากกันมาถึง
๑๑ ปี แล้ว
ถึงวกเข้าเรื่องการสู่ขอ
นางศรีประจันเห็นใจจึงตกลงหมั้นกันสินสอดทองหมั้นมีดังนี้
:-
เงินสิบห้าชั่ง ขันหมาก
ผ้าไหว้สำรับหนึ่ง
เรือนหอฝากระดานมีห้องห้าห้อง
กำหนดวันเสาร์เดือนสิบสองเป็นวันแต่งงาน
การแต่งงานนพลายแก้วกับนางพิม
ขบวนขันหมากยกไปทางเรือ
มีมโหรีอยู่ท้ายเรือ
ถึงท่าบ้านนางศรีประจันมีคนมากั้นประตู
ต้องจ่ายเงินจึงเข้าบ้านได้
ผู้ใหญ่นับเงินสินสอดครบแล้วเลี้ยงดูกัน
ตกบ่ายเจ้าบ่าวก็เดินทางมา
พอขึ้นหอ พระ ๑๐
รูปก็สวดมนต์
เพื่อนเจ้าสาวก็ฮือพร้อมกันเอาเจ้าสาวออกมานั่งตรงหน้าท่านสมภาร
ท่านสวมมงคลให้
พระก็สวดมนต์เรื่อยไป
พอสวดมนต์จบก็เสร็จพิธี
การส่งตัวเจ้าสาว
นับจากวันแต่งงานแล้ว
เจ้าบ่าวจะต้องขึ้นหอก่อน
เมื่อครบกำหนด ๓ วันแล้ว
มารดาฝ่ายหญิงจึงจะส่งตัวเจ้าสาวขึ้นหอ
การแต่งงานพระไวยกับศรีมาลา
ในคราวแต่งงานพระไวยกับศรีมาลา
มีประเพณีที่ควรสังเกตเหมือนกัน
ด้วยเหตุที่เป็นการแต่งงานพิเศษ
คือแต่งตามพระบรมราชโองการ
ฉะนั้นจึงมีพระหมื่นศรีเข้ามาเป็นผู้ช่วยดำเนินงานด้วย
พระหมื่นศรีมาจัดแต่งบ้านพระไวย
พระพิจิตรบิดาเจ้าสาวขอให้พระหมื่นศรีหาเพื่อนเจ้าสาวให้
๑๐ คน
ตอนบ่ายก็เริ่มพิธีแต่งงาน
แต่งที่บ้านเจ้าบ่าว
ทั้งนี้ผิดกับกรณีทั่วไปซึ่งมักแต่งที่บ้านเจ้าสาว
ไม่มีการแห่ขันหมาก
เอาบ้านพระไวยเป็นเรือยนหอ
ฉะนั้นเวลาเริ่มพิธี
พระไวยคงไปอยู่ที่บ้านพระหมื่นศรี
แล้วก็ออกจากบ้านมาฟังพระสวดมนต์ตามพิธี
พอสวดมนต์จบ
ผู้ใหญ่ฝ่ายศรีมาลาก็จัดให้เจ้าสาวออกมาซัดน้ำกับเจ้าบ่าว
ศรีมาลาห่มสีจันทร์ (เหลืองนวล)
ออกมาท่ามกลางเพื่อนสาว
แล้วพระสวมมงคลแฝดให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว
ตอนนี้กลอนว่า
หนุ่มสาวเคียงข้างเข้านั่งอัด
ปรำลงข้างสีกาห้าหกโอ
อึดอัดยัดเยียดเบียดกันกลม
ที่ไม่ถูกเท้ายันดันเข้ามา
|
|
พระสงฆ์เปิดตาลปัตรซัดน้ำโร่
ท่านยายโพสาวนำน้ำเข้าตา
เอาหนามส้มแทงท้องร้องอุยหน่า
ท่านยายสาออกมานั่งบังกันไว้
|
ความสนุกสนานในการซัดน้ำอยู่ที่พยายามเบียดให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวชิดกันได้เท่าไหร่ยิ่งดี
เพื่อนเจ้าบ่าวมักหาโอกาสแตะต้องต้องเพื่อนเจ้าสาว
ฝ่ายนี้จึงหาหนามส้มไว้แทง
ควรสังเกตการซัดน้ำนั้น
โบราณให้พระซัด
แต่บัดนี้เลิกเสียแล้ว
พอซัดน้ำเสร็จก็ไปผลัดผ้าซึ่งแม่เจ้าสาวจัดไว้
แล้วเอาของแถมพกมาแจกเพื่อนเจ้าบ่าว
ระหว่างแต่งตัว
พระยถาสัพพีอวยพรแล้วกลับวัดเป็นหมดพิธีสวดมนต์ซัดน้ำ
ตอนเย็นก็มีการเลี้ยงเพื่อนเจ้าบ่าว
ตอนค่ำมีมโหรีกล่อมหอ
ความตามกลอนว่า
ขับกล่อมซ้อมเสียงสำเนียงนวล
ฆ้องวงหน่งหนอดสอดเสียงซอ
แสนเสนาะเสียงสนั่นสนุกสนาน
พระไวยฟังวังเวงเพลงทยอย |
|
โหยหวนโอดพันสนั่นหอ
ระนาดตอตลอดล้อบรรเลงลอย
วิเวกหวานคร่ำครวญหวนละห้อย
ระเริงลืมตัวม่อยผล็อยหลับพลัน |
<<<
กลับหน้าเดิม
อ่านหน้าต่อไป >>>
|