สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เจ้าฟ้ามหาจักรี สิรินธร
ผู้ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท
 

     
ย้อนกลับ หน้าหลัก อ่านหน้าต่อ

    
     ความมุ่งมั่นพระราชหฤทัยในการที่ทรงรับพระราชภาระในการสนองพระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเข้มงวดและจริงจังนั้น ประจักษ์ชัดในความรู้สึกของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถวายวานต่างๆ และพสกนิกรโดยทั่วหน้า  พระผู้ทรงเป็นมิ่งขวัญชาวสยามพระองค์นี้ ไม่เคยเหนื่อยหน่าย ย่อท้อ และหยุดยั้งงานที่ยากลำบากตรากตรำไม่ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จฯ พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินไป ณ หนใด สมเด็จพระเทพรัตนฯ ประทับอยู่ ณ หนนั้น นับเนื่องมานานจวบจนกาลปัจจุบันและที่จะเป็นไปในอนาคต

     พระวิริยะอุตสาหะในการทรงงานนั้นเป็นที่ลือเล่องว่าไม่เคยทรงหยุดนิ่งแม้แต่ชั่วครู่ยาม ทรงหายพระทัยเป็นงานโดยตลอด ครั้งหนึ่ง เลขาธิการ กปร.ขณะนั้น (ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล) ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่และภาระรับผิดชอบในการตามเสด็จฯ และเฝ้าถวายงานแด่พระราชวงศ์ทุกพระองค์ ได้เล่าให้ฟังด้วยวามชื่นชมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า  ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงาน ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  ครั้งล่าสุด ระหว่างที่คอยเสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง  จากนครเวียงจันทน์สู่หลวงพระบาง เช้าวันนั้นทัศนวิสัยไม่เอื้ออำนวยแก่การบิน  จึงต้องคอยอยู่ที่เวียงจันทน์เป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง  การรอคอยเฉยอยู่โดยไม่มีอะไรจะทำแม้ชั่วเวลาอันสั้นนั้น มิใช่วิสัยของสมเด็จพระเทพรัตนฯ อย่างแน่นอน ดังนั้นแทนที่จะเสียเวลาเปล่าระหว่างคอยฟ้าเปิดเพื่อนำเครื่องบินขึ้น  กลับทรงนำคณะไปเยี่ยมชมสถานที่และวัดเก่าแก่ต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงเป็นการศึกษาศิลปะ โบราณคดี และวัฒนธรรมไปในตัวเป็นการดีกว่าอยู่เฉยๆ และตลอดเวลานั้นก็ได้ทรงทักทายปราศรัยกับประชาชนชาวเวียงจันทน์อย่างเป็นกันเอง  และไม่ถือพระองค์  เป็นที่ประทับใจผู้คนพี่น้องชาวลาวอย่างหาที่สุดมิได้  และเป็นที่กล่าวขานกันในนครเวียงจันทน์มานับจนบัดนี้

     เป็นที่น่าสังเกตว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นั้น ทรงเป็นที่รักและเทิดทูนบูชา ไม่เฉพาะในหมู่พสกนิกรชาวไทยแต่ประการเดียวเท่านั้น  หากแต่ยังทรงเป็นที่ชื่นชมรักใคร่ในหมู่ประชาชนของประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศในภูมิภาคอื่นๆ เป็นอย่างยิ่งอีกด้วย  ดังจะเห็นได้จากการที่เสด็จฯ เยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว เมื่อวันที่ 16-19 ตุลาคม 2535  ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้นนั้น  ปรากฎว่าประชาชนชาวลาวทุกหมู่เหล่าได้พากันห้อมล้อมรับเสด็จฯ ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไป ณ จุดใดเป็นจำนวนมากมายมหาศาล  อย่างที่ไม่เคยปรากฎในการต้อนรับบุคคลสำคัญ ซึ่งเป็นแขกเมืองต่างประเทศครั้งใดมาก่อนเลย  กิตติศัพท์และพระเกียรติคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นั้น ขจรไกลไพศาลมาช้านานในหมู่ชาวต่างประเทศ ครั้นได้มาชื่นชมพระบารมีเข้าจริงๆ ประกอบกับพระจริยาวัตรอันงดงาม น่าชื่นชม ความไม่ถือพระองค์ การแสดงออกซึ่งพระเมตตากรุณาที่มีต่อบุคคลทุกชั้นที่ได้พานพบ ความเอาพระทัยใส่ในพระราชภารกิจทั้งปวง  ตลอดจนพระอารมณ์ขันและความเข้าพระทัยในมวลมนุษยชาติ  ซึ่งมีความแตกต่างหลากหลายในขนบธรรมเนียมประเพณี แต่ก็ทรงพยายามที่จะเรียนรู้และสอดคล้องเข้าได้กับผู้คนทุกหมู่เหล่า ทุกชาติ ศาสนา เหล่านี้เอง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้มีการถวายการต้อนรับและชื่นชมยินดีอย่างเอิกเริกจากใจจริงที่มิได้เสแสร้งจากประชาชนทั่วทุกมุมโลกและจากทุกชาติทุกภาษา