กลับหน้าหลัก

HOME

      หน้า  1   2   3   4   5   6

แม่เล่าให้ฟัง
พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

คัดมาบางส่วนเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติใน "วันแม่"

 

การทำมาหากินของแม่คำและป้าซ้วย

             พ่อชูมีอาชีพเป็นช่างทอง ทั้งแม่คำและป้าซ้วยจะเป็นผู้ช่วยพ่อชู ในห้องที่มียกพื้นและตั้งพระพุทธรูปมีเตากลมๆ อยู่หนึ่งเตา เป็นเตาถ่านมีสูบติดอยู่สำหรับเป่าให้ถ่านร้อน ตรงกลางมีเบ้าหนึ่งเบ้า (ถ้วยดินเผาขนาดถ้วยแก้ว) สำหรับใส่ทอง แม่จำเตาได้ แต่จำไม่ได้ว่าเคยเห็นพ่อแม่ใช้ ถึงอย่างไรก็ดีแม่มีแหวนทองคำฝังเพชรเล็กๆ หนึ่งวง เป็นผลงานของพ่อแม่ซึ่งรักษาไว้ได้มาจนให้ข้าพเจ้า เมื่อพ่อชูถึงแก่กรรม คงไม่มีการใช้เตานี้อีก แม่ไม่ทราบว่าทั้งครองครัวทำมาหากินอย่างไร เมื่อแม่คำถึงแก่กรรมแล้ว ป้าซ้วยรับจ้างมวนบุหรี่ นำยามาวางบนแผ่นกระดาษบางๆ ก่อน แล้วม้วนให้แน่น เอากระดาษออกและมวนด้วยใบตองอ่อนหรือกลีบบัว  บางครั้งแม่ได้ช่วยตัดปลายบุหรี่ให้เรียบและเท่ากัน  นอกนั้นป้าซ้วยทำขนมขายบ้าง

เพื่อนบ้าน

             ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ด้านหนึ่งของบ้านเป็นตึกพังๆ อีกด้านหนึ่งเป็นห้องแถวชุดที่มีคนอยู่ ชุดที่อยู่ติดกับ "บ้าน" ของแม่มีคนจีนอยู่  ถัดออกไปอีกเป็นร้านของ "ป้าสมบูรณ์" ป้าสมบูรณ์เป็นเพื่อนของป้าซ้วย  ไม่ได้เป็นญาติกันเลย แม่จำได้ว่าสามีของป้าสมบูรณ์มีภรรยาน้อยอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ที่นั่นด้วย ป้าสมบูรณ์ขายบุหรี่ซึ่งป้าซ้วยรับจ้างทำด้วย และมีหนังสือให้เช่า เมื่ออ่านหนังสือออกแล้ว แม่ไปอยู่บ้านป้าสมบูรณ์บ่อย และป้าสมบูรณ์อนุญาตให้อ่านหนังสือโดยไม่ต้องเสียสตางค์ ในร้านป้าสมบูรณ์นี้แม่ได้อ่านหนังสือหลายเรื่อง เช่น อิหนา พระอภัยมณี สังข์ศิลป์ชัย ฯลฯ ต่อมาลูกชายป้าสมบูรณ์ได้แต่งงานกับภรรยาม่ายคนหนึ่งของเจ้าพระยาพระเสด็จผู้เป็นแม่ของข้าหลวงของสมเด็จเจ้าฟ้าวไลอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร (ต่อไปนี้จะเรียกทูลหม่อมหญิงฯ) ร้านต่อไปเป็นร้านจีน ซึ่งขายน้ำหวาน จันอับ ฟักหวาน และมีการแทงหวยด้วย

เพื่อนเล่น

             แม่คำและป้าซ้วยไม่ชอบให้แม่ไปเล่นกับเด็กอื่นๆ เพราะเห็นว่าเด็กเหล่านั้นไม่ดีพอ แต่แม่ก็ไปเล่นด้วยอยู่ดี การเล่นมีหยอดหลุม วิ่งเอาเถิด ซ่อนหา มีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งแม่คำและป้าซ้วยไม่รังเกียจ และอนุญาตให้เล่นด้วยคือ พื้น บ้านพื้นอยู่ที่ไหนแม่จำไม่ได้ แม่เคยเดินไปโรงเรียนวัดอนงค์กับพื้น มีที่แห่งหนึ่งที่เพื่อนสองคนชอบไปมากคือที่โล่งๆ หลังครัว เขาลือกันว่าที่นั่นมีผี ทั้งสองคนกลัวแต่ก็ชวนกันไป ก่อนจะไปสวดมนต์กันทุกครั้ง ภายหลังพื้นได้แต่งงานกับลูกชายคนหนึ่งของพระยาชนินทรภักดี ซึ่งข้าพเจ้าจะกล่าวถึงเมื่อแม่ไปอเมริกา  เมื่อแม่ไปเชียงใหม่สิบกว่าปีมาแล้ว พื้นซึ่งอยู่ที่เชียงใหม่เคยมาหา

การอ่านหนังสือ การเรียน

             แม่คำเป็นคนเดียวในบรรดาพี่น้องที่อ่านหนังสือออก แม่คำเป็นผู้ที่สอนให้แม่อ่าน ครั้งหนึ่งแม่กำลังอ่านออกเสียงเรื่องสังข์ทอง ซึ่งมีหนังสืออยู่ที่บ้าน แม่ร้องไห้เพราะสงสารนางรจนาที่ถูกท้าวสามลไล่ไป แม่คำดุใหญ่เพราะหยุดอ่าน
             แม่ไปที่วัดอนงค์บ่อย เจ้าอาวาสเวลานั้นชื่อนวม ต่อมาเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ ครอบครัวของแม่ไปถวายของพระอีกองค์หนึ่ง ซึ่งเรียกกันว่า อาจารย์อ่ำ บ่อยๆ ด้วย
             หลังจากแม่แต่งงานแล้ว อาจารย์อ่ำมาหาและมาขอให้ช่วยสร้างห้องน้ำในวัดซึ่งแม่เต็มใจทำอย่างมาก เจ้าอาวาสนวมเป็นผู้เริ่มตั้งโรงเรียนชายในวัดอนงค์ ต่อมาท่านได้เปิดโรงเรียนสำหรับเด็กหญิงโดยจ้างครูผู้ชายมาสอน ในโรงเรียนนี้มีสังวาลย์ถึงสามคน สังวาลย์ใหญ่ สังวาลย์ (แม่) และสังวาลย์เล็ก แม่ไปโรงเรียนไม่ถึงปีโรงเรียนก็ปิด ต่อมาแม่เข้าโรงเรียนศึกษานารี อยู่ได้เดือนกว่าก็ต้องออกเพราะทางบ้านไม่มีเงินพอที่จะเสียค่าเล่าเรียน

สุขภาพ

             ถึงแม้ว่าครอบครัวจะจน แม่ไม่เคยต้องหิว จำไม่ได้ว่าเคยเจ็บป่วยอะไรอย่างหนัก ครั้งหนึ่งแม่เป็นลมหน้าบ้านเพราะเท้าไปสะดุดก้อนหินและตัวล้มลงไป เมื่อฟื้นขึ้นมาไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน