กลับหน้าหลัก

HOME

      หน้า  1   2   3   4   5   6

แม่เล่าให้ฟัง
พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

คัดมาบางส่วนเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติใน "วันแม่"

 

โรงเรียนสตรีวิทยา บ้านอาหวน

             คราวนี้แม่ถูกส่งเข้าโรงเรียนสตรีวิทยา เพื่อให้อยู่ใกล้โรงเรียนผู้ใหญ่ทางสวนสี่ฤดูส่งแม่ไปอยู่บ้านอาหวน หงสกุล ซึ่งแม่เรียกว่าอาหวน บ้านนี้อยู่ใกล้วัดชนะสงคราม อาหวนนี้เคยเป็นพระพี่เลี้ยงรุ่นเล็กของทูลหม่อมฯ และเวลานั้นเป็นข้าหลวงของทูลหม่อมหญิงฯ อาหวนแต่งงานแล้วและระหว่างที่แม่อยู่นั่นลูกคนแรกของอาหวนเกิดและได้รับชื่อว่ามหิดล อาหวนเป็นแม่ของหะรินด้วย (ปัจจุบัน พล.อ.อ.หะริน หงสกุล เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร) ทุกวันแม่เดินไปโรงเรียนสตรีวิทยากับเพื่อนบ้านคนหนึ่งซึ่งอายุมากว่าและเป็นญาติกับอาหวน ตอนกลางวันเพื่อนบ้านคนนี้จะแบ่งอาหารปิ่นโตให้กินด้วย แม่อยู่บ้านอาหวนปีกว่า

แม่คำถึงแก่กรรม

             เมื่ออายุประมาณ ๙ ขวบ ทางบ้านมาตามตัว เพราะแม่คำเจ็บอยู่ที่บ้านป้ามาที่มีนบุรี แม่ไปรับแม่คำกับป้าซ้วย และจำการเดินทางกลับจากมีนบุรีด้วยเรือพายทางคลองแสนแสบได้อย่างติดตา แม่คำนอนเจ็บหนักในเรือ ป้าซ้วยเป็นผู้พายและคัดท้าย แม่พยายามช่วยพายอยู่ข้างหน้าแต่ก็พายไม่ค่อยเป็น กลับถึงบ้านไม่นานเท่าไรแม่คำก็เสียชีวิตไป
             หลังจากที่เผาศพแม่คำแล้ว แม่อยู่บ้านไม่ถึงเดือน อาหวนก็ส่งคนมาตามกลับไป

ไปอยู่บ้านพระยาดำรงแพทยาคุณ

             วันหนึ่งขณะที่อยู่โรงเรียนสตรีวิทยา แม่ทำความสะอาดมือที่สกปรกมากเพื่อทำการฝีมือ โดยถูมือกับขอบซีเมนต์ของทางเดินใกล้ๆโอ่งน้ำ ที่ขอบถนนนั้นมีเข็มเย็บผ้าที่ใครทิ้งไว้ เข็มนั้นได้เข้าไปในฝ่ามือของแม่จนมิดเล่ม เมื่อกลับถึงบ้านอาหวนทุกคนตกใจไม่ทราบจะทำอย่างไร จึงพาแม่ไปที่สวนสี่ฤดู จากนั้นแม่ได้ถูกพาไปที่บ้านพระยาดำรงแพทยาคุณ (ฮวด วีระไวทยะ) ซึ่งเป็นแพทย์ประจำพระองค์สมเด็จพระพันปีฯ พระยาดำรงฯ เตรียมตัวจะผ่ามือ แม่ร้องเสียงดังจึงผ่าไม่ได้ พระยาดำรงฯ ต้องใช้ความพยายามถึง ๓ ครั้ง และหลายวันจึงสามารถผ่าเข็มออกมาได้ ในบ้านนี้มีลูกสาวสองคน  คนพี่ชื่อจำนง คนน้องชื่ออุทุมพร ในภายหลังจำนงได้ไปเรียนพยาบาลที่อเมริกาคล้ายๆกับแทนแม่เมื่อแม่หมั้นแล้วในปี พ.ศ.๒๔๖๒ (ค.ศ.๑๙๑๙) ปัจจุบันเป็นคุณหญิงจำนงพิณพากย์พิทยเภท อุทุมพรเป็นแม่ น.พ.กุณฑล สุนทรเวช บ้านพระยาดำรงฯ เวลานั้นอยู่ที่คลองหลอด ต่อมาย้ายบ้านสองครั้ง และในที่สุดได้พระราชทานที่และสร้างบ้านให้ที่สามเสน จำนงและอุทุมพรไปโรงเรียนสตรีวิทยาเหมือนแม่แต่ไปด้วยรถม้า หลังจากที่ได้รับการผ่าตัดสำเร็จแล้ว แม่พักผ่อนอยู่ที่บ้านพระยาดำรงฯ อีก และเมื่อคุณหญิงสงวน ภรรยาพระยาดำรงฯ ชวนให้อยู่ด้วยแม่ก็รับทันที แม่ก็ได้ไปโรงเรียนสตรีวิทยาพร้องกับจำนงและอุทุมพร แต่ในไม่ช้าจำนงและอุทุมพร ได้ถูกนำไปถวายตัวเป็นข้าหลวงเรือนนอกของสมเด็จพระพันปีฯ ทั้งสองได้เปลี่ยนโรงเรียนเป็นโรงเรียนราชินี ตั้งแต่ตอนนั้นแม่ก็ต้องเดินไปโรงเรียนอย่างเดิม
             ในระยะนั้นแม่ผอมมาก เพราะตอนกลางวันไม่ได้กินข้าว ในสมัยนั้นถึงจะมีสตางค์ก็ไม่มีของขายในโรงเรียน หนังสือก็ไม่มี จึงไม่ค่อยได้ทำการบ้าน ถึงอย่างไรก็ดีแม่ก็ไม่ขยันนักอยู่แล้วเอาแต่เล่น  เมื่อแม่อยู่ปลายประถมปีที่ ๓ ต้องสอบขึ้นมัธยมปีที่ ๑ แม่สอบตกต้องซ้ำชั้น เมื่อแม่อยู่โรงเรียนสตรีวิทยาเคยหนีโรงเรียนกลับบ้านตอนกลางวันหลายครั้ง แทนที่ไปโรงเรียนแม่ได้ขึ้นเรือจ้างข้ามไปฝั่งธนบุรี และจะกลับบ้านพระยาดำรงฯ ตรงกับเวลาที่โรงเรียนเลิก เมื่ออายุเกือบ ๑๓ แม่รู้สึกเบื่อๆ และไม่มีความสุขนัก จึงหนีกลับบ้านอีกครั้ง และคิดไว้ในใจว่าจะเปิดโรงเรียนสอนหนังสือเด็ก แต่ก็ถูกตามกลับไปอีก ในระหว่างที่เรียนซ้ำชั้นประถมปีที่ ๓ อยู่ เจ้าคุณดำรงฯ มาถามแม่ว่าอยากเรียนเป็นพยาบาลไหม แม่รับทันที ในสมัยนั้นผู้หญิงไม่มีอาชีพที่จะเลือกมากนัก เมื่อจบประถมปีที่ ๓ แล้วจะมีชั้นมัธยมปีที่ ๑ ถึงปีที่ ๓ เท่านั้น ถ้าอยากเรียนต่อก็ต้องเรียนเป็นครู เวลานั้นโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราชมีผู้หญิงเรียนอยู่น้อย ในการเข้าไม่มีกฎเกณฑ์มาก เพียงแต่อ่านออกเขียนได้ก็พอแล้ว เพื่อสนับสนุนให้มาเยนยังมีการให้เงิน เดือนละ ๑๕ บาทต่อคน จำนวนเงินนี้เพียงพอสำหรับค่าอาหารตลอดทั้งเดือน